รมว.อว. เปิดการเสวนา “ไขข้อข้องใจ ประตูสู่ความสำเร็จศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge)” กลไกสำคัญนำไทยสู่ Hub ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมระดับนานาชาติ

 


วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดการเสวนาเรื่อง "ไขข้อข้องใจ ประตูสู่ความสำเร็จศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge)" โดยมี ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม" ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะทำงานที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเสวนา เรื่อง "ไขข้อข้องใจ ประตูสู่ความสำเร็จ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge)" พร้อมด้วย ผู้บริหาร นักวิจัย แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังการเสวนาดังกล่าว ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน  อว.แฟร์ : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ อววน. เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน ด้วยพลังสหวิทยาการ ณ ห้องประชุม MR209 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์


นางสาวศุภมาส กล่าวว่า กระทรวง อว. มีแผนสร้างและพัฒนากำลังคนที่ครอบคลุมทุกระดับ ตั้งแต่การผลิตบัณฑิตในระดับปริญญาตรี โท เอก นักวิจัย รวมถึงกำลังคนที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งการพัฒนากำลังคนที่ครอบคลุมในทุกระดับนั้น ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง ทั้งแบบเฉพาะด้าน และแบบสหสาขาวิชาชีพ ที่มาจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาช่วยพัฒนาและเพิ่มทักษะของคน (Upskill / Reskill) รวมถึงสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม การพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) จึงเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยไปสู่ความเป็นศูนย์กลางด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ ด้วยการสร้างเครือข่ายนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญสูงจากสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาทำงานร่วมกัน และร่วมพัฒนาทักษะบุคลากรการวิจัยและคนไทยให้มีศักยภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ และศูนย์กลางด้านความรู้ ยังเป็นแหล่งกิจกรรมทางวิชาการ ที่รวบรวม เผยแพร่องค์ความรู้ และเป็นแหล่งอ้างอิงองค์ความรู้เฉพาะด้านที่ถูกต้องแม่นยำตามหลักวิชาการ โดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญระดับประเทศ เพื่อแก้ปัญหาในมิติต่าง ๆ พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งด้านการวิจัย นวัตกรรม และเครือข่ายความร่วมมือในระดับนานาชาติ

“กระทรวง อว. พร้อมสนับสนุนการทำงานของศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ และศูนย์กลางด้านความรู้ จากการรวมกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญที่ วช. ได้ผลักดัน เพื่อสนับสนุนนโยบาย IGNITE THAILAND ที่กระทรวง อว. ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันให้สำเร็จผล” รมว.อว. กล่าวทิ้งท้าย

ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สิริฤกษ์  กล่าวว่า ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) จะนำไปสู่การสร้างนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรมเพื่อเพิ่มศักยภาพและความเข้มแข็งในด้านการวิจัยของประเทศไทย รวมถึง การยกระดับเครือข่ายความร่วมมือให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และเป็น การพัฒนากลไกและมาตรการที่ส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา สถาบันวิจัย หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนไปสู่การพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาในระดับประเทศจากความร่วมมือจากพลังสหวิทยาการในการขับเคลื่อนประเทศ

ด้านกำลังคนได้อย่างแท้จริงอย่างยั่งยืน

ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร กล่าวว่า การพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) 

นั้นการส่งเสริมกลไกด้านการพัฒนาทักษะและกำลังคน การส่งเสริมการศึกษาสายสามัญและสายอาชีพที่มีหลักสูตรอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเน้นพัฒนาทักษะทางอาชีพและทักษะเฉพาะทางเทคนิค เพื่อนำความรู้ในเชิงทฤษฎีมาใช้จริง สนับสนุนการเรียนการสอนทักษะในยุคดิจิทัล และผลิตบุคลากรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ

ดร.วิภารัตน์  กล่าวว่า วช. ได้ดำเนินการขับเคลื่อน ภายใต้แผนงาน อววน. การสนับสนุนศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) ที่มีความรู้เฉพาะด้าน มีทักษะ ด้านการวิจัยในระดับสูง และสามารถสร้างและพัฒนาบุคลากรวิจัยให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้น ๆ ให้เพิ่มมากขึ้น และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ที่มีเอกลักษณ์ ในศาสตร์ สาขา ประเด็น หรือบริบทที่ประเทศไทยมีความโดดเด่น จนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และสามารถดึงดูดคนไทยและต่างประเทศให้มาศึกษาเรียนรู้ในเรื่องนั้น ๆโดยมีกรอบการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ตาม เพื่อความร่วมมือและ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organization for Economic Co-Operation and Development,OECD) รวมถึงอุตสาหกรรมตามเป้าหมายของประเทศ และการดึงดูดนักวิจัยระดับโลกมาร่วมงาน การส่งเสริมให้แสวงหาทุนวิจัยระดับนานาชาติ การแลกเปลี่ยนบุคลากร นักศึกษา หลักสูตรร่วม การศึกษาวิจัยในประเทศไทย และกิจกรรมความร่วมมือกับสถาบันวิจัยชั้นนำระดับโลก

ภายในงานมีการปาฐกถาพิเศษเรื่อง "นโยบายด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม"โดย ศ.เกียรติคุณ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไลประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และการเสวนา เรื่อง "ไขข้อข้องใจ ประตูสู่ความสำเร็จ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge)" ดำเนินการเสวนาโดย ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะทำงานที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents) และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) ผู้ร่วมเสวนา ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง

ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วย ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิทยาศาสตร์ คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ศ.ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดื่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ดร.บดินทร์ เกษมเศรษฐ์ CEO บริษัท ชิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และ คุณปณต บุณยะโหตระ ที่ปรึกษากระทรวงพาณิชย์ และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมเสวนาในครั้งนี้

ทั้งนี้ ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ (Hub of Talents)

และศูนย์กลางด้านความรู้ (Hub of Knowledge) จะนำไปสู่ประตูสู่ความสำเร็จด้วยพลังสหวิทยาการที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เทคนิคนครสวรรค์รับการประเมินเพื่อรับรางวัลสถานศึกษาอาชีวศึกษาพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2666

วช. มุ่งเป้าใช้งานวิจัยและนวัตกรรม รุกแผนลดอุบัติเหตุทางถนน

สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิและสถาบันในเครือสารสาสน์ ฉลองครบรอบ 60 ปี จัดงานประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 2 พร้อมกิจกรรมจิตอาสาทั่วประเทศ